วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา “สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย” จัดการประชุมออนไลน์คณะกรรมการสภาฯ พร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็นต่อร่างหลักการกฎหมายลำดับรองภายใต้ร่างพระราชกฤษฎีกาการประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ต้องแจ้งให้ทราบ พ.ศ. …เพื่อใช้เป็นเกณฑ์พิจารณาการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล โดยการกำหนดลักษณะหรือประเภทของการประกอบธุรกิจบริการที่ต้องแจ้งให้ทราบ และหลักเกณฑ์ในการประกอบธุรกิจบริการ เพื่อให้การประกอบธุรกิจดังกล่าวมีความโปร่งใสและเป็นธรรม มีการคุ้มครองผู้บริโภค ตลอดจนมีการดำเนินการที่สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยสภาดิจิทัลฯ จะรวบรวมข้อคิดเห็นจากคณะกรรมการสภาฯ และนำเสนอต่อสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) ต่อไป

ทั้งนี้ ร่างหลักการกฎหมายลำดับรองภายใต้ร่างพระราชกฤษฎีกาการประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ต้องแจ้งให้ทราบ พ.ศ. …ประกอบด้วย 1) การคำนวนจำนวนผู้ใช้บริการที่ใช้งานเฉลี่ยต่อเดือน 2) การประกาศข้อตกลงและเงื่อนไขการให้บริการให้ผู้ใช้บริการทราบ 3) การแจ้งการเลิกประกอบธุรกิจ และ 4) การจัดทำแผนและมาตรการในการดูแลผู้ใช้บริการก่อนเลิกประกอบธุรกิจ

จากการประชุมระดมข้อคิดเห็นในครั้งนี้ ได้มีการสรุปข้อคิดเห็นโดยมีประเด็นสำคัญ ได้แก่ การพิจารณาระบุข้อกำหนดเพิ่มเติมเรื่องการรักษาข้อมูลที่เกี่ยวกับแพลตฟอร์มดิจิทัลว่าต้องไม่มีการเปิดเผยหรือทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้แจ้งที่เป็นเจ้าของแพลตฟอร์ม นอกจากนี้แล้วที่ประชุมฯ ยังเห็นด้วยในหลักการเรื่องการนำจำนวนผู้ใช้บริการย้อนหลังรายเดือน (Average Monthly Active Users: AMAU) เป็นเกณฑ์ในการปฏิบัติหน้าที่ที่ระบุไว้ในร่าง พ.ร.ฎฯ และมีข้อเสนอเพิ่มเติมว่าอาจมีแพลตฟอร์มดิจิทัลประเภทที่มีผู้ใช้บริการจำนวนน้อย แต่ส่งผลกระทบต่อประชาชนหรือเศรษฐกิจในภาพกว้าง จึงควรนำปัจจัยนี้มาร่วมพิจารณาเป็นเกณฑ์เพิ่มเติมอีกด้วย