วันจันทร์ที่ 29 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา “คณะกรรมการสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย” จัดประชุมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อรับฟังความคิดเห็นต่อ “ร่างกฎหมายว่าด้วยเศรษฐกิจแพลตฟอร์ม” เพื่อเป็นกฎหมายกลางในการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจแพลตฟอร์ม โดยมีประเด็นรับฟังความคิดเห็นประกอบด้วย 1) ความเหมาะสมของวัตถุประสงค์และขอบเขตของร่างฯ 2) หน้าที่ของผู้ประกอบธุรกิจกลุ่มต่างๆ 3) การกำกับดูแลเนื้อหาสาระของสัญญาระหว่างผู้ใช้บริการและผู้ใช้บริการแพลตฟอร์ม 4) หน้าที่และอำนาจของหน่วยงานกำกับดูแล ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 5) การใช้แนวทางการกำกับเชิงการป้องกันรักษาความเป็นธรรมในการแข่งขัน และ 6) ประเด็นอื่นๆ หรือข้อเสนอแนะ โดยสภาดิจิทัลฯ จะรวบรวมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเสนอต่อสำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเพื่อพิจารณาต่อไป

เนื่องด้วย ครม. มีมติรับทราบข้อเสนอหลักการกฎหมายว่าด้วยเศรษฐกิจแพลตฟอร์ม เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา ตามที่สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (สำนักงาน ป.ย.ป.) เสนอ และให้สำนักงาน ป.ย.ป. และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมดำเนินการร่างกฎหมายว่าด้วยเศรษฐกิจแพลตฟอร์มเพื่อเป็นกฎหมายกลางในการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจแพลตฟอร์มและดำเนินการตามประเด็นยุทธศาสตร์ชาติที่จะช่วยส่งเสริม สนับสนุนในด้านการสร้างความสามารถการแข่งขัน และด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ นำไปสู่การประกอบธุรกิจและการใช้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม 

ทั้งนี้ คณะกรรมการสภาดิจิทัลฯ มีการแสดงความคิดเห็นประกอบการจัดทำร่างกฎหมายว่าด้วยเศรษฐกิจแพลตฟอร์ม ได้แก่ 1) ผู้ประกอบการมีหน้าที่เพิ่มขึ้นนำมาสู่การเพิ่มต้นทุน และอาจจะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานในอนาคตได้ 2) การทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องช่วยลดภาระให้แก่ประกอบการและ 3) แนวทางช่วยผลักดันและส่งเสริมแพลตฟอร์มในประเทศไทย โดยสภาดิจิทัลฯ จะรวบรวมข้อเสนอแนะและนำส่งสำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อพิจารณาประกอบการจัดทำกฎหมายว่าด้วยเศรษฐกิจแพลตฟอร์ม ซึ่งถือเป็นกฎหมายกลางในการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจแพลตฟอร์มอันจะทำให้ระบบการให้บริการและการใช้บริการบนแพลตฟอร์มดิจิทัลมีความชัดเจนและเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อันเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น สอดรับกับเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติในการยกระดับการแข่งขันในด้านสังคมและเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ