หลังจากที่สหภาพยุโรปได้ออกกฎหมายว่าด้วยมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล General Data Protection Regulation หรือ GDPR ในปี พ.ศ. 2561 เพื่อบังคับใช้กับประเทศในสหภาพยุโรป ประเทศไทยเองก็ได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ปี พ.ศ. 2562 ซึ่งมีผลบังคับใช้วันที่ 28 พฤษภาคม 2562 แต่จะมีผลบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบในส่วนของข้อกำหนดเรื่องการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หน้าที่ของผู้ประกอบธุรกิจในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และบทกำหนดโทษ ในวันที่ 28 พฤษภาคม 2563 ซึ่งกฎหมายดังกล่าวส่งผลดีต่อประชาชนในแง่ของการได้รับความคุ้มครองในข้อมูลส่วนบุคคล อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงมาตรฐานการเก็บรวบข้อมูลในประเทศเทียบเท่ากับสากลที่มี GDPR ใช้บังคับ

ในทางกลับกันผู้ประกอบธุรกิจที่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและผู้ที่ทำหน้าที่ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ต้องเตรียมความพร้อมที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหลายประการในระยะเวลาอันสั้น สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมจึงขอสรุปเนื้อหาที่เป็นสาระสำคัญของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจได้เตรียมความพร้อมในการดำเนินการภายในองค์กรได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายต่อไป