“ปราโมทย์ โชคศิริกุลชัย” รองประธานสภาดิจิทัลฯ ร่วมงานแถลงข่าวโครงการส่งเสริมการถ่ายทอดมรดกทางวัฒนธรรมของชาติสู่รูปแบบดิจิทัล (Digital Cultural Heritage) ระยะที่ 2 พร้อมแสดงวิสัยทัศน์ในหัวข้อ "Hackulture 2023 Illuminate Thai อัปเวลแฟชั่นไทย ด้วยดิจิทัล" หนุนเทคโนโลยีดิจิทัล ปลุกพลัง Soft Power ไทยสู่สากล
วันศุกร์ที่ 11 สิงหาคม 2566 - “สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย” โดย “นายปราโมทย์ โชคศิริกุลชัย” รองประธานสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทยและประธานคณะกรรมการพันธกิจด้าน Digital Culture ร่วมงานแถลงข่าวโครงการส่งเสริมการถ่ายทอดมรดกทางวัฒนธรรมของชาติสู่รูปแบบดิจิทัล (Digital Cultural Heritage) ระยะที่ 2 และเสวนากิจกรรมการเรียนรู้และแข่งขันเชิงสร้างสรรค์ (Hackathon) หัวข้อ "Hackulture 2023 Illuminate Thai อัปเวลแฟชั่นไทย ด้วยดิจิทัล" ร่วมกับ “นายธีรวุฒิ ธงภักดิ์” รองเลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ “ดร.อติชาต พฤติกัลป์” ที่ปรึกษาโครงการฯ ด้านนโยบายสาธารณะ (Policy Lab) “นายธนัญชนก สุบรรณ ณ อยุธยา” กรรมการ สมาคมผู้ประกอบการแอนิเมชันและคอมพิวเตอร์กราฟิกส์ไทย และ “นายพัชรพงษ์ วชิรพันธุ์” Headmaster Hackathon โดยมี “นายภุชพงค์ โนดไธสง” เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) กล่าวเปิดงาน ณ ห้องพระมาตุลี โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ
“นายภุชพงค์ โนดไธสงค์” เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ได้จัดโครงการส่งเสริมการถ่ายทอดมรดกทางวัฒนธรรมของชาติสู่รูปแบบดิจิทัล หรือ “Digital Cultural Heritage ระยะที่ 2” ซึ่งเป็นเวทีประชันความสามารถของมนุษย์ยุคดิจิทัลให้ใช้ทักษะความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ในการถ่ายทอดมรดกทางวัฒนธรรมและยกระดับอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยประกอบไปด้วยสิ่งทอเครื่องแต่งกายเครื่องหนังเครื่องประดับและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับแฟชั่นไทยผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลและดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อให้เกิดการสร้าง Soft Power ที่สามารถสร้างรายได้และเพิ่มมูลค่าให้กับเศรษฐกิจของชาติอย่างยั่งยืน
“นายปราโมทย์ โชคศิริกุลชัย” รองประธานสภาดิจิทัลฯ กล่าวถึง ความสำคัญของ Digital Transformation ในวงการแฟชั่นไทย โดยได้ฉายภาพเส้นทางของผลิตภัณฑ์หรือสินค้าแฟชั่นผสมผสานอัตลักษณ์และเทคโนโลยีดิจิทัลอย่าง Big Data เข้าด้วยกัน เช่น “แฟชั่นผ้าไหมไทย” ที่มีเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในทุกกระบวนการ ได้แก่ การเก็บข้อมูลเชิงลึกที่จะบ่งชี้ถึงอัตลักษณ์และความแตกต่างของผ้าไหมในแต่ละชุมชน ตลอดจนดิจิทัลได้ต่อยอดไปสู่การเล่าเรื่อง (Storytelling) เพื่อเป็นการขยายกระบอกเสียงของความเป็นอัตลักษณ์ดังกล่าว และการใช้ E-Commerce ในการขยายสู่ไปตลาดระดับประเทศและระดับโลก รวมไปถึงการรวบรวมข้อมูลที่จะขยายผล และเชื่อมโยงโอกาสทางเศรษฐกิจในการยกระดับชุมชน ไปสู่การสร้าง Soft Power ของ 5F ในระดับชาติต่อไป
“สภาดิจิทัลฯ ขอขอบคุณ สดช. ที่ให้เกียรติทางสภาดิจิทัลฯ เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการถ่ายทอดมรดกทางวัฒนธรรมของชาติสู่รูปแบบดิจิทัล (Digital Cultural Heritage) ระยะที่ 2 และกิจกรรมการเรียนรู้และแข่งขันเชิงสร้างสรรค์ (Hackathon) หัวข้อ "Hackulture 2023 Illuminate Thai อัปเวลแฟชั่นไทย ด้วยดิจิทัล" โดยสภาดิจิทัลฯ จะเป็นตัวกลางระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ในการเป็นที่ปรึกษา และให้คำแนะนำด้านการผสมผสานเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น Application, Data, AI, Animation และ Game เป็นต้น แก่ผู้เข้าแข่งขัน อันเป็นการต่อยอดพัฒนาผลงานและสร้างรายได้จริงในอนาคต นำไปสู่การยกระดับ Soft Power แฟชั่นไทยสู่ระดับสากล”
สำหรับโครงการ “Hackulture 2023 illuminate Thai อัปเวลแฟชั่นไทย ด้วยดิจิทัล” จัดแข่งขัน 2 ระดับ ได้แก่ ระดับนักเรียนนิสิตนักศึกษา (มัธยม/ปวช./ปวส./ปริญญาตรี) และระดับประชาชนทั่วไป (ประชาชนทั่วไป/ปริญญาโท/ปริญญาเอก) โดยรวมกลุ่ม 4-6 คนร่วมประชันไอเดียและสร้างสรรค์ผลงานซึ่งแบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 สาขา ได้แก่ 1) สาขาเทคโนโลยีดิจิทัล : คิดค้นสร้างสรรค์นวัตกรรมหรือปรับปรุงชิ้นงานกระบวนการที่มีอยู่เดิมให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นสามารถสร้างความสะดวกสบายหรือเพิ่มมูลค่าเชิงการตลาด 2) สาขาสื่อมัลติมีเดีย : สร้างสรรค์ชิ้นงานที่สามารถเปลี่ยนแปลงความคิดเดิมๆ เพื่อนำไปสู่การสร้างกรอบความคิดใหม่ นำเสนอผลงานในรูปแบบภาพเคลื่อนไหว ภาพนิ่ง โดยเปิดรับผลงานตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม – 30 กันยายน 2566
>> สมัครได้ที่ www.hackulture.com
>> สอบถามเพิ่มเติมที่ https://www.facebook.com/dchthackulture หรือ dcht2@event.hackulture.com เบอร์โทรศัพท์ 099-4946664