วันศุกร์ที่ 5 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา “คณะกรรมการสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย” จัดประชุมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อรับฟังความคิดเห็นต่อ ความเป็นไปได้และความพร้อมของไทยในการเข้าร่วม ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจดิจิทัล : Digital Economy Partnership Agreement (DEPA) เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์หรือแผนงานเกี่ยวกับนโยบายดิจิทัลโดยเฉพาะ ร่วมกับสิงคโปร์ โดยมีนิวซีแลนด์ และ ชิลีเป็นสมาชิก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการค้าทางดิจิทัล อำนวยความสะดวกทางการค้า และพัฒนาความร่วมมือระหว่างไทยกับสิงคโปร์ ดังนั้น ประเทศไทยจึงจำเป็นต้องพิจารณาจัดทำความตกลงดังกล่าวเพื่อก้าวไปสู่ระบบเศรษฐกิจที่รองรับกิจกรรมและรูปแบบธุรกิจ รวมถึงกำหนดนโยบายและเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการนำประเทศเข้าสู่ยุคดิจิทัล โดยสภาดิจิทัลฯ จะรวบรวมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเสนอต่อสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) เพื่อพิจารณาต่อไป
ความตกลง DEPA ระหว่างสิงคโปร์ นิวซีแลนด์ และชิลี เป็นความตกลงที่มีขอบเขตกว้างและครอบคลุมเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าดิจิทัลอย่างรอบด้านถึง 16 โมดูล (Module) เช่น การอำนวยความสะดวกทางธุรกิจและการค้า การปฏิบัติต่อสินค้าดิจิทัลและสิทธิที่เกี่ยวข้อง ประเด็นด้านข้อมูล การเสริมสร้างสภาพแวดล้อมที่มีความยั่งยืน ความเชื่อมั่นของธุรกิจและผู้บริโภค ตัวตนทางดิจิทัล แนวโน้มและเทคโนโลยียุคใหม่ นวัตกรรมและเศรษฐกิจดิจิทัล ความร่วมมือด้านวิสาหกิจขนาดกลางขนาดย่อม และการมีส่วนร่วมทางดิจิทัล
ทั้งนี้ คณะกรรมการสภาดิจิทัลฯ มีการแสดงความคิดเห็นต่อความเป็นไปได้และความพร้อมของไทยในการเข้าร่วมความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) ได้แก่ 1) ควรหารืออย่างรอบคอบ โดยเฉพาะเรื่องความพร้อมของไทยในการแข่งขัน 2) การพิจารณาเรื่องการยกเว้นภาษีศุลกากร เนื่องจากเป็นกลไกสำคัญที่จะสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยแข่งขันได้ 3) การเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเสนอแนวทางอันเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการอุตสาหกรรมดิจิทัลไทย และ 4) ควรมีการวิเคราะห์เชิงลึกในเรื่องข้อกังวลที่ควรพิจารณารายละเอียดแต่ละหัวข้อ เพื่อที่จะสามารถนำข้อมูลไปต่อรองให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติได้ เป็นต้น