วีซ่าระยะยาวใหม่ (Long Term Resident หรือ LTR Visa) ให้มีความครอบคลุมและยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น ตามที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (สกท) เสนอ ที่มุ่งเน้นการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพนั้นมาพร้อมสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับผู้ที่มีทักษะเชี่ยวชาญต่างชาติด้วย โดยวีซ่าใหม่นี้คาดว่าจะเปิดรับผู้สมัครได้ตั้งแต่เดือนกันยายนปีนี้ อ้างอิงรายละเอียดจาก BOI เข้ามาพำนักหรือทำงานในไทยระยะยาว จำนวน 1 ล้านคน โดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มเป้าหมาย ตามประเภทของวีซ่าระยะยาว (LTR) ได้แก่
1. สำหรับผู้มีความมั่งคั่งสูง
หลักเกณฑ์
1. ถือครองสินทรัพย์อย่างน้อย 1 ล้านเหรียญสหรัฐ
2. รายได้ขั้นต่ำ 80,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปีที่ผ่านมา
3. ลงทุนขั้นต่ำ 500,000 ดอลลาร์สหรัฐในพันธบัตรรัฐบาลไทย หรือในการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) หรือ ในอสังหาริมทรัพย์ไทย
สิทธิประโยชน์
1. วีซ่าระยะยาว 10 ปี สามารถต่อได้สำหรับผู้สมัครและติดตาม
2. ขยายระยะการรายงานตัว จาก 90 วัน เป็น 1 ปี และได้รับการยกเว้นการขออนุญาตกลับเข้าประเทศอีกครั้ง
3. ยกเว้นจากข้อกำหนดสัดส่วนการจ้างงานคนไทยต่อคนต่างชาติ 4:1
4. บริการ Fast Track ที่สนามบินนานาชาติประเทศไทย
5. ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ส่วนบุคคลธรรมดาสำหรับเงินได้จากต่างประเทศ (แม้อยู่นานเกิน 180 วัน)
6. การอนุญาตให้ทำงานในประเทศไทย (ใบอนุญาตทำงานแบบดิจิทัล)
2. สำหรับผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ
หลักเกณฑ์
1. มีอายุ 50 ปี หรือสูงกว่า
2. รายได้ขั้นต่ำ 80,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปีในช่วง 1 ปีที่ผ่านมานับถึงวันที่ยื่นคำขอ
3. หากมีรายได้ในช่วง 40,000 - 80,000 ดอลลาร์สหรัฐ ผู้ยื่นคำขอจะต้องลงทุนขั้นต่ำ 250,000 ดอลลาร์สหรัฐในพันธบัตรรัฐบาลไทย หรือ ในการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) หรือในอสังหาริมทรัพย์ไทย
สิทธิประโยชน์
1. วีซ่าระยะยาว 10 ปี สามารถต่อได้สำหรับผู้สมัครและผู้ติดตาม
2. ขยายระยะการรายงานตัว จาก 90 วัน เป็น 1 ปี และได้รับการยกเว้นการขออนุญาตกลับเข้าประเทศอีกครั้ง
3. ยกเว้นจากข้อกำหนดสัดส่วนการจ้างงานคนไทยต่อคนต่างชาติ 4:1
4. บริการ Fast Track ที่สนามบินนานาชาติประเทศไทย
5. ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ส่วนบุคคลธรรมดาสำหรับเงินได้จากต่างประเทศ (แม้อยู่นานเกิน 180 วัน)
6. การอนุญาตให้ทำงานในประเทศไทย (ใบอนุญาตทำงานแบบดิจิทัล)
3. สำหรับผู้ที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย
หลักเกณฑ์
1. รายได้ขั้นต่ำ 80,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
2. หากมีรายได้ในช่วง 40,000 - 80,000 ดอลลาร์สหรัฐ จพต้องจบปริญญาโทเป็นขั้นต่ำหรือเป็นเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา หรือ เคยได้การระดมทุน Series A มาก่อน
3. บริษัทผู้ว่าจ้างปัจจุบันต้องเป็นบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ หรือ เป็นบริษัทเอกชนที่ดำเนินธุรกิจอย่างน้อย 3 ปี มีรายได้รวมกันไม่ต่ำกว่า 150 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐในช่วง 3 ปีหลัง
4. มีประสบการณ์อย่างน้อย 5 ปี ในประเภทงานใกล้เคียงกับที่ทำให้กับบริษัทผู้ว่าจ้างปัจจุบันในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
สิทธิประโยชน์
1. วีซ่าระยะยาว 10 ปี สามารถต่อได้สำหรับผู้สมัครและผู้ติดตาม
2. ขยายระยะเวลารายงานตัว จาก 90 วัน เป็น 1 ปี และได้รับการยกเว้นการขออนุญาตกลับเข้าประเทศอีกครั้ง
3. บริการ Fast Track ที่สนามบินนานาชาติประเทศไทย
4. ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (แม้อยู่นานเกิน 180 วัน)
4. สำหรับผู้มีทักษะเชียวชาญ
หลักเกณฑ์
1. รายได้ขั้นต่ำ 80,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
2. หากทีรายได้ระหว่าง 40,000 - 80,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หรือก่อนเกษียณอายุ ผู้ยื่นคำขอจะต้องจบปริญญาโทหรือสูงกว่า ในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหรือมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในสายงานในไทย
3. ไม่จำกัดรายได้ขั้นต่ำสำหรับผู้เชี่ยวชาญที่ทำงานให้กับหน่วยงานภาครัฐไทย
4. บริษัทผู้ว่าจ้างสามารถอยู่ในอุตสาหกรรมใดก็ได้ หรือเป็นสถาบันอุดมศึกษา สถาบันวิจัย สถาบันฝึกอบรมเฉพาะทาง หรือหน่วยงานภาครัฐก็ได้
5. มีประสบการณ์อย่างน้อย 5 ปี ในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ยกเว้นกรณีที่ผู้ยื่นคำขอจบการศึกษาในระดับปริญญาเอกหรือสูงกว่าในสาขาที่เกี่ยวข้องของอุตสาหกรรมเป้าหมาย หรือผู้สมัครที่ทำงานให้กับหน่วยงานภาครัฐ
สิทธิประโยชน์
1. วีซ่าระยะยาว 10 ปี สามารถต่อได้ สำหรับผู้สมัครและผู้ติดตาม
2. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 17%
3. ยกเว้นจากข้อกำหนดสัดส่วนการจ้างงานคนไทยต่อคนต่างชาติ 4:1
4. บริการ Fast Track ที่สนามบินนานาชาติประเทศไทย
5. ขยายระยะเวลารายงานตัวจาก 90 วัน เป็น 1 ปี และได้รับการยกเว้นการขออนุญาตกลับเข้าประเทศอีกครั้ง
6. การอนุญาตให้ทำงานในประเทศไทย (ใบอนุญาตทำงานแบบดิจิทัล)
วีดีโองานสัมมนา และ DCT Startup Clinic ที่เกี่ยวข้องกับมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย
DCT Startup Clinic ตอน Visa สำหรับชาวต่างชาติที่จะทำงานใน Startup
เตรียมพบกับมาตรการเพื่อดึงดูดบุคลากรที่มีทักษะและเทคโนโลยีขั้นสูงเข้ามาทำงานและพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายที่เรียกว่า สมาร์ทวีซ่า (SMART Visa) จากผู้เชี่ยวชาญด้านการส่งเสริมการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)