วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 - “สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย” นำโดย “ม.ร.ว. นงคราญ ชมพูนุท” ประธานสภาดิจิทัลฯ ร่วมกับ “สมาคมการค้าและการลงทุนเอเชียน-สากล (Asian-International Trade and Investment Association - AITIA)” และ “สมาคมสมาพันธ์การศึกษาไทย-จีน (The Federation of Thai-Chinese Education Association - FTCEA)” นำโดย “คุณจื้ออี้ อู๋ (Mr.WU ZHIYI)” นายกกิตติมศักดิ์ ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือ (MOU) 2 ฉบับ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและบุคลากรดิจิทัลระหว่างไทย-จีน ประกอบด้วย
โดยมี "นางเขมนรินทร์ รัตนาอัมพวัลย์" รองประธาน และประธานพันธกิจด้านการพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ด้านดิจิทัล สภาดิจิทัลฯ และ “ดร. ณัฏฐ์พัชช์ ชัยศิริกุล” อุปนายกสมาคมการค้าและการลงทุนเอเชียน-สากล (AITIA) และ สมาคมสมาพันธ์การศึกษาไทย-จีน (FTCEA) ร่วมเป็นพยาน ณ ห้องประชุม Training Room 3 ทรู ดิจิทัล พาร์ค (WEST)
ม.ร.ว. นงคราญ ชมพูนุท ประธานสภาดิจิทัลฯ กล่าวว่า สภาดิจิทัลฯ ให้ความสำคัญกับการขยายความร่วมมือกับประเทศจีน โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมการค้าและการลงทุน และการพัฒนาบุคลากรดิจิทัล ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างความร่วมมืออันแน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศ โดยความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการและกิจกรรมที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลร่วมกันของประเทศไทย-จีน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่การเป็นศูนย์กลางดิจิทัลของภูมิภาค
นายจื้ออี้ อู๋ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคม AITIA และ สมาคมสมาพันธ์ FTCEA กล่าวว่า ในวาระครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ไทย-จีน สมาคม AITIA และสมาคมสมาพันธ์ FTCEA เตรียมจัดงานในรูปแบบสัมมนาและมหกรรมการศึกษา เพื่อกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี โดยเน้นการส่งเสริมความร่วมมือ สร้างโอกาสทางธุรกิจ และผลักดันการลงทุนด้านดิจิทัลและการศึกษาระหว่างสองประเทศ
ภายในงาน ได้รับเกียรติจาก นางเขมนรินทร์ รัตนาอัมพวัลย์ รองประธานสภาดิจิทัลฯ กล่าวบรรยายพิเศษในหัวข้อ China-Thai Education Collaboration and Opportunity in the AI Era
นางเขมนรินทร์ รัตนาอัมพวัลย์ รองประธานสภาดิจิทัลฯ กล่าวว่า ความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างไทย-จีนในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของ “พันธมิตรการศึกษาอัจฉริยะ Belt and Road" ที่จะนำไปสู่การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างนักเรียน นักศึกษา และนักวิจัย การยกระดับคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยี AI การพัฒนาทักษะแห่งอนาคต เช่น AI, IoT, และ Data Science การสร้างสรรค์นวัตกรรมร่วมกัน และการสร้างโอกาสทางอาชีพในทั้งสองประเทศ
“การผนึกกำลังระหว่างสภาดิจิทัลฯ สมาคมสมาพันธ์การศึกษาไทย-จีนและสมาคมการค้าและการลงทุนเอเชียน-สากล จะเป็นก้าวสำคัญที่จะร่วมกันพัฒนาด้านการศึกษา การค้า และการลงทุน สภาดิจิทัลฯ พร้อมที่จะสร้างความร่วมมืออย่างเต็มที่ เพื่อขยาย Impact และประโยชน์จากความร่วมมือนี้ให้ครอบคลุมพื้นที่และภาคส่วนต่าง ๆ ต่อไป”
นอกจากนั้น นางสาวติ้งเทา ลู่ (Dingtao Lu) ผู้แทนสำนักงานสมาคมการค้าและการลงทุนแห่งเอเชียประจำประเทศจีน ได้ร่วมบรรยายพิเศษในหัวข้อ Digital Silk Road · Smart Win-Win: Practices and Future of China-Thailand Digital Economy Cooperation
นางสาวติ้งเทา ลู่ ผู้แทนสำนักงานสมาคมการค้าและการลงทุนแห่งเอเชียประจำประเทศจีน เปิดเผยว่า เศรษฐกิจดิจิทัลของทั้งไทย-จีน กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยจะคิดเป็นสัดส่วนถึง 25% ของ GDP ภายในปี พ.ศ. 2568 ทั้งสองประเทศมีศักยภาพในการร่วมมือกันอย่างมหาศาล ซึ่งได้ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนในด้านอีคอมเมิร์ซ การชำระเงินดิจิทัล และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล
“ประเทศไทยและจีน สามารถผนึกกำลังกันในด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น การส่งออกสินค้าเกษตรผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ การพัฒนาระบบขนส่งอัจฉริยะ การฝึกอบรมบุคลากรด้านดิจิทัล และพลังงานสีเขียว เพื่อส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคให้แข็งแกร่งและยั่งยืนยิ่งขึ้น”
สำหรับ การลงนาม MOU ระหว่างสภาดิจิทัลฯ สมาคม AITIA และสมาคมสมาพันธ์ FTCEA มีวัตถุประสงค์เพื่อกระชับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจดิจิทัลและพัฒนาบุคลากรไทย-จีน โดยมุ่งเน้นส่งเสริมการค้าการลงทุนในอุตสาหกรรมดิจิทัล พัฒนาศักยภาพบุคลากรให้ตรงความต้องการตลาด และแลกเปลี่ยนความรู้ด้าน AI ในการศึกษา เพื่อผลักดันไทยสู่การเป็นศูนย์กลางดิจิทัลภูมิภาค