news
สภาดิจิทัลฯ ร่วมกับ สวทช. กสทช. สมาคมคนตาบอดฯ และ มูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ เดินหน้าอบรมเสริมแกร่งนักพัฒนาเว็บไซต์ภาครัฐ มุ่งสร้างเว็บ-แอปฯ ให้เข้าถึงได้ตามมาตรฐานสากล
12 Mar 2025

วันที่ 11-12 มีนาคม 2568 - สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย (DCT) โดย “ม.ร.ว. นงคราญ ชมพูนุท” ประธานสภาดิจิทัลฯ พร้อมด้วย “นายลักษมณ์ เตชะวันชัย” รองประธานและประธานคณะกรรมการพันธกิจด้านดิจิทัลเพื่อความยั่งยืน สภาดิจิทัลฯ ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย และ มูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ หัวข้อ “การขับเคลื่อนการเข้าถึงบริการสารสนเทศและการสื่อสารโดยสะดวกถ้วนหน้า สู่ระบบราชการ 4.0” แก่หน่วยงานภาครัฐกว่า 40 แห่ง โดยมี “นางสาวอรดา วงศ์อำไพวิทย์” ผู้ช่วยประธานและหัวหน้าฝ่ายกฎหมาย สภาดิจิทัลฯ เป็นผู้ดำเนินรายการ ณ โรงแรมแมนดาริน กรุงเทพฯ 


ม.ร.ว. นงคราญ ชมพูนุท ประธานสภาดิจิทัลฯ เน้นย้ำถึงบทบาทของสภาดิจิทัลฯ ในการลดความเหลื่อมล้ำด้านการเข้าถึงข้อมูลและบริการดิจิทัลสำหรับทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้พิการและผู้สูงอายุ ผ่านการจัดทำคู่มือแนวทางการพัฒนาเว็บไซต์ที่เข้าถึงได้ การอบรมผู้พัฒนาเว็บไซต์ รวมถึงการส่งที่ปรึกษาซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญมาให้คำแนะนำแก่หน่วยงานภาครัฐ ในการปรับปรุงเว็บไซต์ตามมาตรฐานสากล


“สภาดิจิทัลฯ มุ่งมั่นขับเคลื่อนการเข้าถึงบริการสารสนเทศและการสื่อสารโดยสะดวกถ้วนหน้า สู่ระบบราชการ 4.0 ในฐานะองค์กรหลักในการขับเคลื่อนภาคดิจิทัลของประเทศไทย ตามแผนการดำเนินงาน Digital For ALL โดยจะเป็นศูนย์กลางในการประสานความร่วมมือทุกภาคส่วน เพื่อให้ผู้พิการและผู้สูงอายุสามารถเข้าถึงบริการสารสนเทศและการสื่อสารโดยสะดวกถ้วนหน้า”


ขณะที่ สวทช. มุ่งผลักดันให้เกิดมาตรฐานของการพัฒนาเว็บไซต์สู่ระดับสากล และยกระดับหน่วยงานที่เข้าร่วมอบรมให้เป็นนักพัฒนาเว็บไซต์ที่มีมาตรฐานเพิ่มขึ้น และสร้างระบบนิเวศการพัฒนาเว็บไซต์


ดร.อดิสร เตือนตรานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า สวทช. สนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อสังคม โดยได้พัฒนาแพลตฟอร์มเว็บไซต์สำหรับตรวจสอบมาตรฐานเว็บไซต์ภาครัฐ เพื่อให้เว็บไซต์เหล่านี้สามารถเข้าถึงได้สำหรับทุกคน โดยเฉพาะผู้พิการและผู้สูงอายุ


“แพลตฟอร์มดังกล่าวมีระบบตรวจสอบทั้งแบบอัตโนมัติและโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้การตรวจสอบมีความแม่นยำและครอบคลุมทุกด้าน สวทช. มุ่งหวังว่าแพลตฟอร์มนี้จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการยกระดับมาตรฐานเว็บไซต์ภาครัฐให้สามารถเข้าถึงข้อมูลและบริการดิจิทัลอย่างเท่าเทียม”


อาจารย์วันทนีย์ พันธชาติ ผู้เชี่ยวชาญ สวทช. กล่าวถึงความสำคัญของการสร้างระบบนิเวศการพัฒนาเว็บไซต์ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวกและทั่วถึง โดย สวทช. มีแผนที่จะจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ การให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐที่เข้าร่วมโครงการสามารถปรับปรุงเว็บไซต์ของตนให้เป็นไปตามมาตรฐาน Web Accessibility ได้อย่างมีประสิทธิภาพ


"เป้าหมายหลักคือการช่วยให้หน่วยงานภาครัฐสามารถปรับปรุงเว็บไซต์ของตนให้ได้ตามมาตรฐานสากล และขยายผลความสำเร็จไปยังหน่วยงานอื่น ๆ ในอนาคต ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลและบริการดิจิทัลได้อย่างเท่าเทียมและสะดวกมากยิ่งขึ้น”


ด้าน กสทช. เปิดเผยว่า การจัดอบรมในครั้งนี้ เป็นกิจกรรมที่สำคัญในส่งเสริมการพัฒนาเว็บไซต์ที่เข้าถึงโดยสะดวกถ้วนหน้า ซึ่งจะสร้างประโยชน์และให้บริการแก่ประชาชนทุกกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ


นายต่อพงศ์ เสลานนท์ กรรมการ กสทช. (ด้านการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชน) เน้นย้ำความสำคัญของการพัฒนาเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของหน่วยงานภาครัฐให้สามารถเข้าถึงได้สำหรับทุกคน โดยเฉพาะผู้พิการและผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องการการสนับสนุนเป็นพิเศษ 


“กสทช. ร่วมกับ สภาดิจิทัลฯ สวทช. และภาคีเครือข่าย ขับเคลื่อนเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงข้อมูลและบริการภาครัฐได้อย่างเท่าเทียม”


ด้าน มูลนิธิคนตาบอดไทย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสะท้อนความต้องการในการเข้าถึงเว็บไซต์สำหรับผู้พิการ ที่เสนอแนะให้มุ่งเน้นถึงความสำคัญในการส่งเสริมความเข้าใจให้แก่ผู้ให้บริการและผู้พัฒนาเป็นสำคัญ


นายจตุพล หนูท่าทอง หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและสิ่งอำนวยความสะดวก มูลนิธิคนตาบอดไทย กล่าวว่า ในอดีตผู้พิการมักเผชิญอุปสรรคในการเข้าถึงข้อมูลจากปัญหาด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ แต่ปัจจุบันปัญหาหลักคือการขาดความเข้าใจและการตระหนักรู้ของนักพัฒนาและผู้ให้บริการเว็บไซต์ ซึ่งทำให้เว็บไซต์จำนวนมากยังไม่สามารถเข้าถึงได้สำหรับผู้พิการ


“การร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ถือเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนการเข้าถึงข้อมูลสำหรับผู้พิการอย่างเท่าเทียม โดยมุ่งเน้นการสร้างความเข้าใจและตระหนักรู้ให้กับผู้พัฒนาและผู้ให้บริการเว็บไซต์ เพื่อให้เว็บไซต์และแอปพลิเคชันต่าง ๆ สามารถรองรับการใช้งานของผู้พิการได้อย่างแท้จริง”


นางสาวอรดา วงศ์อำไพวิทย์ ผู้ช่วยประธานและหัวหน้าฝ่ายกฎหมาย สภาดิจิทัลฯ นำเสนอภาพรวมของการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน โดยอ้างอิงจากดัชนี IMD World Digital Competitiveness Ranking 2024 และข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความก้าวหน้าในการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลของประชาชน แต่ยังคงมีความเหลื่อมล้ำในกลุ่มผู้สูงอายุและผู้พิการ 


“การส่งเสริมการเข้าถึงเนื้อหาและบริการดิจิทัลโดยสะดวกถ้วนหน้า เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยยกตัวอย่างกรณีศึกษา Singpass ของสิงคโปร์ และกรอบแนวคิด Digital Inclusion ของ UNDP เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาระบบราชการ 4.0 ที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน”


ภายในงานอบรมฯ ได้จัดเวทีเสวนาหัวข้อ "การขับเคลื่อนการเข้าถึงบริการสารสนเทศและการสื่อสารโดยสะดวกถ้วนหน้า สู่ระบบราชการ 4.0" โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายภาคส่วนมาร่วมแบ่งปันความรู้และมุมมองที่น่าสนใจในการพัฒนาเว็บไซต์ที่เข้าถึงได้ ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างสังคมดิจิทัลที่เท่าเทียมและยั่งยืน และมีการบรรยายพิเศษ ความหลากหลายของผู้ใช้งาน หัวใจของการพัฒนาเว็บไซต์ที่เข้าถึงโดยสะดวกถ้วนหน้า และแนะนำโครงการ แพลตฟอร์มสนับสนุนการเข้าถึงบริการฯ และการบรรยายจากผู้เชี่ยวชาญ เป็นต้น


การอบรมครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ผู้ให้บริการและผู้พัฒนาเว็บไซต์ในหน่วยงานภาครัฐ ในการออกแบบและพัฒนาระบบดิจิทัลที่ทุกคน โดยเฉพาะผู้พิการและผู้สูงอายุ สามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมตามมาตรฐานสากล โดยสภาดิจิทัลฯ และภาคีเครือข่ายจะยังคงจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลิตนักพัฒนาเว็บไซต์หน่วยงานราชการที่ได้มาตรฐานสากลต่อไป