news
สภาดิจิทัลฯ ผนึก สกมช. MOU เสริมแกร่งไซเบอร์ภาคธุรกิจไทย ดันเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลโตยั่งยืน
5 Jun 2025

วันพฤหัสบดีที่ 5 มิถุนายน 2568 – นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานในพิธีและสักขีพยานใน การลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ระหว่าง สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย (สภาดิจิทัลฯ) และ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) เพื่อร่วมกันยกระดับมาตรการ ความรู้ และระบบนิเวศด้านไซเบอร์ของภาคธุรกิจ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมไทย ให้สามารถรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ซับซ้อนและรุนแรงมากขึ้นในยุคดิจิทัล โดย นายอดิศร นิลวิสุทธิ์ นายกสมาคมส่งเสริมนวัตกรรมเทคโนโลยีไซเบอร์ (CIPAT) รวมทั้งผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สื่อมวลชน และแขกผู้มีเกียรติร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องวายุภักษ์ 5 โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ 


ในการลงนามครั้งนี้ สภาดิจิทัลฯ โดย ม.ร.ว. นงคราญ ชมพูนุท ประธานสภาดิจิทัลฯ เป็นผู้ลงนาม พร้อมด้วย นายนนทวัตต์ สาระมาน กรรมการสภาดิจิทัลฯ เป็นพยาน ขณะที่ สกมช. โดย พลอากาศตรี อมร ชมเชย เลขาธิการสกมช. เป็นผู้ลงนาม และ พลตรี ธีรวุฒิ วิทยากรณ์ รองเลขาธิการสกมช. เป็นพยาน


ความร่วมมือครั้งสำคัญนี้มีเป้าหมายหลักในการยกระดับความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ของภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ภัยคุกคามไซเบอร์มีความซับซ้อนและรุนแรงขึ้น การผนึกกำลังกันระหว่างสององค์กรนี้จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประเทศอย่างยั่งยืน 


นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ กล่าวว่า “ภัยคุกคามทางไซเบอร์เป็นความท้าทายระดับชาติที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน การลงนามในวันนี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่สะท้อนถึงความพร้อมและเจตนารมณ์ร่วมกันของภาครัฐและเอกชน ในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์ให้แก่ประเทศ ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยอย่างยั่งยืน”


ม.ร.ว. นงคราญ ชมพูนุท ประธานสภาดิจิทัลฯ ได้ตอกย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือครั้งนี้ว่า สภาดิจิทัลฯ มุ่งมั่นที่จะผลักดันให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมไทยเข้มแข็งและสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นใจในยุคดิจิทัล การร่วมมือกับ สกมช. จะช่วย ต่อยอดองค์ความรู้ด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ และ สนับสนุนให้ภาคเอกชนไทยยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้ทัดเทียมสากล


“การรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นภารกิจร่วมกันที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และ MOU ฉบับนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราที่จะร่วมกัน ส่งเสริม พัฒนากลไก มาตรฐาน บุคลากร และเครือข่ายด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลให้เติบโตอย่างยั่งยืน”


ด้าน พลอากาศตรี อมร ชมเชย เลขาธิการสกมช. กล่าวว่า “การลงนามในวันนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือที่มีศักยภาพสูงในการผลักดันการยกระดับมาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของประเทศอย่างรอบด้าน เราเชื่อมั่นว่า การบูรณาการความรู้ เครือข่าย และศักยภาพจากทั้งสองหน่วยงาน จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์ให้แก่ธุรกิจและอุตสาหกรรมไทย ที่เป็นฟันเฟืองสำคัญของเศรษฐกิจประเทศ พร้อมเดินหน้าอย่างมั่นคงในโลกดิจิทัล”


ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความร่วมมือที่แข็งแกร่งระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามทางไซเบอร์ โดยเน้นการบูรณาการทรัพยากร ความเชี่ยวชาญ และเทคโนโลยี เพื่อยกระดับความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ของประเทศอย่างแท้จริง สภาดิจิทัลฯ พร้อมที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับ สกมช. และทุกภาคส่วน เพื่อขับเคลื่อนภารกิจนี้ให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ และร่วมกันสร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประเทศไทยอย่างยั่งยืนต่อไป