news
สภาดิจิทัลฯ ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ในงานการประชุมสุดยอดเศรษฐกิจดิจิทัล ไทย-จีน 2025 แนะเร่งปิดช่องว่างทักษะแรงงาน ผนึกจีนปั้น Ecosystem สู่ฮับ AI อาเซียน
19 Nov 2025

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 – สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย (DCT) นำโดย ม.ร.ว. นงคราญ ชมพูนุท ประธานสภาดิจิทัลฯ พร้อมด้วย นางเขมนรินทร์ รัตนาอัมพวัลย์ รองประธานและประธานพันธกิจด้านการพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ด้านดิจิทัล เข้าร่วมงาน การประชุมสุดยอดเศรษฐกิจดิจิทัล ไทย-จีน 2025 (Thailand-China Digital Economy Summit 2025) โดยมี ว่าที่ร้อยตรี ธนะสิทธิ์ เอี่ยมอนันชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ให้เกียรติเป็นประธานกล่าวเปิดงาน ณ ห้อง Phoenix 2 อิมแพค เมืองทองธานี


ในโอกาสนี้ นางเขมนรินทร์ รัตนาอัมพวัลย์ รองประธานสภาดิจิทัลฯ ได้ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ผ่านปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "Future Ready: Upskill & Reskill ยุทธศาสตร์ดิจิทัลไทย ก้าวทันโลกยุค AI" โดยชี้ให้เห็นถึงจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาดแรงงานในภูมิภาคว่า AI กำลังเข้ามามีบทบาทในการพลิกโฉมเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ซึ่งคาดการณ์ว่าภายในปี 2030 AI จะช่วยเพิ่มมูลค่า GDP ของอาเซียนได้ถึง 10-18% แต่ในขณะเดียวกัน แรงงานกว่า 54-59% จะได้รับผลกระทบทั้งในเชิงบวกและลบจากการเปลี่ยนแปลงนี้ และที่สำคัญคือ 66% ขององค์กรชั้นนำในอาเซียนระบุว่าจะไม่รับพนักงานที่ขาดทักษะด้าน AI เข้าทำงาน ดังนั้น การ Upskill/Reskill จึงเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการสร้างศักยภาพ และโอกาสใหม่ของกำลังคนไทยในยุคของเศรษฐกิจดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน


นางเขมนรินทร์ กล่าวเน้นย้ำถึงสถานการณ์ในประเทศไทยว่า ปัจจุบันคนไทยมีความตื่นตัวในการเรียนรู้สูงมาก โดยสถิติจาก Coursera ชี้ว่าคนไทยเรียนทักษะ Generative AI เพิ่มขึ้นถึง 232% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยโลก และองค์กรไทยกว่า 89% ได้นำ AI มาใช้ในการทำงานจริงแล้ว อย่างไรก็ตาม เรายังเผชิญกับความท้าทายเรื่อง 'ช่องว่างทางทักษะ' (Skill Gap) โดยพบว่าผู้เรียน GenAI ที่เป็นผู้หญิงมีเพียง 26% และบัณฑิตจบใหม่กว่า 65% ยังประสบปัญหาว่างงานเนื่องจากทักษะไม่ตรงกับความต้องการของตลาด ดังนั้น การสร้าง Ecosystem ที่ภาครัฐและเอกชนร่วมมือกันเพื่อพัฒนาคนให้ตรงโจทย์ภาคธุรกิจอย่างทันเวลาและยั่งยืน จึงเป็นวาระเร่งด่วน


นอกจากนี้ รองประธานสภาดิจิทัลฯ ยังได้กล่าวถึงโอกาสความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ระหว่างไทยและจีนว่า จีนถือเป็นหนึ่งในผู้นำด้าน AI ของโลก (Global AI Leaders) ที่มีความพร้อมทั้งโครงสร้างพื้นฐานและบุคลากรวิจัย ขณะที่ไทยมีศักยภาพโดดเด่นในการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัลของอาเซียน และพร้อมเป็น 'สะพานเชื่อม' (Bridge) ที่สำคัญของภูมิภาค ความร่วมมือระหว่างกันจะเป็นการผนึกกำลังเพื่อแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและขยายผลไปสู่การพัฒนากำลังคนร่วมกัน อันจะนำมาซึ่งการเติบโตทางเศรษฐกิจดิจิทัลที่เข้มแข็งให้กับทั้งสองประเทศอย่างแท้จริง


ทั้งนี้ สภาดิจิทัลฯ จะยังคงเดินหน้าสานต่อพันธกิจในการพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ด้านดิจิทัล โดยมุ่งเน้นการลดช่องว่างทางทักษะและเตรียมความพร้อมให้แรงงานไทยก้าวทันโลกยุค AI ผ่านความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์กับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก