วันที่ 17 ธันวาคม 2568 ณ ห้องประชุมใหญ่ สภาดิจิทัลฯ ทรู ดิจิทัล พาร์ค (เวสต์) - สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย (DCT) โดย นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสผู้ร่วมก่อตั้งสภาดิจิทัลฯ พร้อมด้วย ม.ร.ว. นงคราญ ชมพูนุท ประธานสภาดิจิทัลฯ จัดการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 5/2568 เพื่อหารือความคืบหน้าการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของสภาดิจิทัลฯ ในการเสริมสร้างขีดความสามารถการแข่งขันด้านเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประเทศไทย
ที่ประชุมได้พิจารณาภาพรวมผลงานของสภาดิจิทัลฯ ความคืบหน้าในการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งในประเทศ และระดับนานาชาติ การดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ สิทธิประโยชน์สำหรับการลงทุน Data Center การกำหนดมาตรฐานทักษะด้านปัญญาประดิษฐ์ของประเทศ และการพัฒนากำลังคนดิจิทัลให้สอดรับกับบริบทเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสผู้ร่วมก่อตั้งสภาดิจิทัลฯ กล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโลกว่าปัจจุบันเศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญความท้าทายจากภูมิรัฐศาสตร์ และผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังมีปัจจัยพื้นฐานเชิงบวก โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรม ซึ่งช่วยดึงดูดฐานการผลิตจากต่างประเทศเข้าสู่ประเทศไทย
“หนึ่งในโอกาสเชิงยุทธศาสตร์ของประเทศไทยคือการดึงดูดการลงทุนด้าน Data Center จากกลุ่ม Hyper Scaler ซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แม้จะมาพร้อมกับความท้าทายด้านพลังงาน แต่ขณะเดียวกันก็ยังเปิดโอกาสให้ประเทศไทยพัฒนาห่วงโซ่อุปทานที่เกี่ยวข้อง อาทิ อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ แบตเตอรี่ และเทคโนโลยีพลังงานสะอาด ตลอดจนการจัดตั้งศูนย์วิจัยด้าน AI และ Cloud ในระดับภูมิภาค เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการดึงดูดการลงทุนระยะยาว”
นายศุภชัย เน้นย้ำบทบาทของสภาดิจิทัลฯ ในฐานะตัวแทนภาคเอกชนเพื่อร่วมขับเคลื่อนนโยบายส่งเสริมการลงทุนของประเทศ พร้อมชี้ทิศทางเชิงยุทธศาสตร์สำคัญในการดำเนินงาน ได้แก่ 1) อธิปไตยด้านปัญญาประดิษฐ์ (Sovereign AI) โดยประเทศไทยจำเป็นต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน AI ของตนเอง ท่ามกลางบริบทการแข่งขันและการแบ่งขั้วทางเทคโนโลยีของโลก เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านข้อมูลและเทคโนโลยีในระยะยาว 2) การเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจฐานทรัพย์สินทางปัญญา (IP-Based Economy) โดยมี AI เป็นกลไกขับเคลื่อนและต่อยอดศักยภาพของบุคคลให้พัฒนาเป็นทรัพย์สินทางปัญญาที่สร้างมูลค่าเพิ่มได้ และ 3) ธรรมาภิบาลด้านปัญญาประดิษฐ์และความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (AI Governance & Cyber Security) โดยให้ความสำคัญกับการคุ้มครองเยาวชนและสังคมจากภัยคุกคามและอาชญากรรมไซเบอร์ที่ทวีความซับซ้อนมากขึ้นในยุค AI
ม.ร.ว.นงคราญ ชมพูนุท ประธานสภาดิจิทัลฯ กล่าวถึงผลการดำเนินงานของสภาดิจิทัลฯ ในช่วงเดือนตุลาคม–ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้ขับเคลื่อนภารกิจด้านเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง โดยสภาดิจิทัลฯ ได้จัดและเข้าร่วมกิจกรรมสำคัญหลายเวที ทั้งในมิติการพัฒนานโยบาย การยกระดับกำลังคน และการสร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย อาทิ การจัดเวิร์กชอปด้านการยกระดับทักษะกำลังคนดิจิทัล การเข้าร่วมงานด้าน AI และนวัตกรรมระดับชาติ รวมถึงการจัดแสดงผลงานการประยุกต์ใช้ AI และ IoT เพื่อยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการไทย
สภาดิจิทัลฯ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับหน่วยงานสำคัญหลายแห่ง ครอบคลุมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล การพัฒนาผู้นำดิจิทัลในภูมิภาคอาเซียน การพัฒนาเทคโนโลยีและ AI ร่วมกับสถาบันการศึกษา ตลอดจนการส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและรัสเซีย พร้อมทั้งได้มีการหารือเชิงนโยบายว่าด้วยแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประเทศ ม.ร.ว.นงคราญ กล่าว
การประชุมครั้งนี้สะท้อนบทบาทของสภาดิจิทัลฯ ในฐานะตัวแทนภาคเอกชนที่มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนนโยบายด้านดิจิทัล และร่วมผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประเทศไทยให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลกอย่างยั่งยืน











