14 ตุลาคม 2568 – สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย (DCT) โดย ม.ร.ว. นงคราญ ชมพูนุท ประธานสภาดิจิทัลฯ และ นางเขมนรินทร์ รัตนาอัมพวัลย์ รองประธานและประธานพันธกิจด้านการพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ด้านดิจิทัล สภาดิจิทัลฯ ร่วมกับ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน (บพค.) โดย ดร. รัฐภูมิ ตู้จินดา รองผู้อำนวยการ บพค. จัดงานเวิร์กชอป “สิทธิประโยชน์และโอกาสการพัฒนาบุคลากรดิจิทัลภาคเอกชน UPSKILL RESKILL NEW SKILL กำลังคนด้านเทคโนโลยีและ AI” เพื่อเชื่อมโอกาสและแหล่งทุนจากภาครัฐสู่ภาคเอกชนอย่างเป็นรูปธรรม โดยมี ดร.อธิป อัศวานันท์ ผู้อำนวยการสภาดิจิทัลฯ เป็นผู้ดำเนินรายการ ณ ชั้น 6 ห้อง Auditorium ทรู ดิจิทัล พาร์ค (ฝั่ง East) 

งานในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อเชื่อมโยงโอกาสและแหล่งทุนสำคัญ ในการยกระดับศักยภาพของบุคลากร ในโครงการ Upskill, Reskill และ New Skill ภายใต้การสนับสนุนของ บพค. กระทรวง อว. ซึ่งมุ่งเน้นการสร้างกำลังคนที่มีทักษะสูงให้ตรงกับความต้องการของอุตสาหกรรมเป้าหมาย 

ม.ร.ว. นงคราญ ชมพูนุท ประธานสภาดิจิทัลฯ กล่าวถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการพัฒนากำลังคนดิจิทัลให้มีทักษะสูงและตรงตามความต้องการของอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยขอบคุณ บพค. กระทรวง อว. ที่เข้ามาส่งเสริมแหล่งทุนในการสนับสนุนโครงการ Upskill, Reskill และ New Skill ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการยกระดับศักยภาพบุคลากรไทยให้สามารถแข่งขันในเวทีโลก

นางเขมนรินทร์ รัตนาอัมพวัลย์ รองประธานสภาดิจิทัลฯ กล่าวว่า สภาดิจิทัลฯ ในฐานะภาคอุตสาหกรรมที่มีเครือข่ายของอุตสาหกรรมดิจิทัล ให้ความสำคัญกับการพัฒนากำลังคนเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรม โดยสภาดิจิทัลฯ เป็นองค์กรกลางที่จะเชื่อมโยงโครงการจาก บพค. ไปยังสมาชิกและผู้ประกอบการภาคเอกชน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ดร. รัฐภูมิ ตู้จินดา รองผู้อำนวยการ บพค. ได้ฉายภาพวิสัยทัศน์ของหน่วยงานภายใต้ “แผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย” โดยเน้นยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนากำลังคนและงานวิจัยขั้นแนวหน้า (Frontier Research) โดย บพค. มุ่งสนับสนุนทุนพัฒนากำลังคนในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เช่น เซมิคอนดักเตอร์, ยานยนต์ไฟฟ้า และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีประยุกต์ที่สามารถขับเคลื่อนการเติบโตของทุกภาคส่วนในระบบเศรษฐกิจไทย

ในช่วงการสนทนา ได้มีการเปิดเผยรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับการขอรับสิทธิประโยชน์ โดย ดร.รัฐภูมิ ได้เน้นย้ำว่า สำหรับหลักสูตรที่ต้องการงบประมาณสูง รัฐจะพิจารณาอย่างเข้มงวดจากคุณภาพและประสิทธิภาพของหลักสูตร พร้อมทั้งมีการใช้กลไกการตรวจสอบผลสัมฤทธิ์ที่ชัดเจน ซึ่งมาตรการนี้เป็นการรับประกันว่าการใช้งบประมาณของรัฐจะเกิดประโยชน์สูงสุดในเชิงของการพัฒนาทักษะที่มีคุณภาพและตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานจริง ทั้งนี้ สภาดิจิทัลฯ สามารถทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการประสานงานกับองค์กรภาคเอกชนเพื่อเชื่อมโยงกับ บพค. ต่อไป

ดร.อธิป อัศวานันท์ ผู้อำนวยการสภาดิจิทัลฯ เน้นย้ำถึงความร่วมมือระหว่างสภาดิจิทัลฯ และ บพค. ในการเร่งพัฒนากำลังคนด้านเทคโนโลยีและ AI ซึ่งเป็นวาระสำคัญของประเทศ โดยสภาดิจิทัลฯ พร้อมทำหน้าที่เป็นตัวกลางและผู้ประสานงาน (Facilitator) เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการ และสมาชิกสามารถเข้าถึงแหล่งทุนและใช้ประโยชน์จากโครงการสนับสนุนของภาครัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การจัดงานครั้งนี้ ตอกย้ำความร่วมมือที่แข็งแกร่งระหว่าง สภาดิจิทัลฯ และ บพค. ในการเป็นองค์กรสำคัญที่มุ่งยกระดับบุคลากรดิจิทัลและ AI โดยการส่งเสริมการใช้สิทธิประโยชน์จากภาครัฐให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อขับเคลื่อนขีดความสามารถทางเทคโนโลยีของประเทศให้แข่งขันได้ในระดับสากล