รายงาน
20 อาชีพที่ดีที่สุดสำหรับการทำงานในรูปแบบ Work from Home
4 เม.ย. 2563

กว่าทศวรรษที่ผ่านมาการทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) ในประเทศสหรัฐอเมริกามีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด จากการวิเคราะห์ขององค์กร Global Workplace Analytics ของประเทศสหรัฐฯ โดยการสำรวจข้อมูลจาก Census Bureau’s American Community Survey ปี 2005-2018 พบว่าการทำงานผ่านเทคโนโลยี Telecommuting (การทำงานผ่านสื่อโทรคมนาคม) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยสามารถสรุปผลลัพธ์ที่ได้จากการสำรวจได้เป็น 3 ประเด็นหลัก ดังนี้

  1. การทำงานแบบ Telecommuting เติบโตขึ้นถึง 173% เมื่อเปรียบเทียบกับอัตราการจ้างงานในปัจจุบันของประเทศ
  2. 50% ของแรงงานในตลาดแรงงาน มีการทำงาน Part-time ในรูปแบบ Work from Home และ 40% ของแรงงานในตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ใช้เทคโนโลยี Telecommuting ในการทำงานเป็นบางครั้งบางคราว
  3. กว่า 75% ของแรงงานในตลาดแรงงานที่ทำงานในรูปแบบ Work from Home ได้รับรายได้มากกว่า 65,000 ดอลลาร์สหรัฐ/ปี ซึ่งเป็นรายได้ที่สูง (สูงกว่า 80% ของพนักงานบริษัทในตลาดแรงงานทั้งหมด)

อย่างไรก็ดีถึงแม้ว่าการทำงานในรูปแบบ Work from Home จะให้ผลตอบแทนที่ดีอ้างอิงจากข้อมูลที่ได้จากการสำรวจข้างต้น ผู้ที่สนใจต้องพึงระวังกลุ่มมิจฉาชีพที่คอยฉกฉวยโอกาสจากกลุ่มคนที่ต้องการทำงานในรูปแบบ Work from Home เช่น การนำข้อมูลส่วนบุคคล หรือหมายเลขประกันสังคม ไปใช้เพื่อแสวงหาประโยชร์โดยมิชอบ ซึ่ง  Ms. Christine Durst จาก Rat Race Rebellion ซึ่งเป็นหน่วยงานจัดหางานในรูปแบบ Work from Home ได้ให้ข้อสังเกตเกี่ยวกับลักษณะบริษัทที่น่าเชื่อถือไว้ ดังนี้

  1. บริษัทนั้นจำเป็นต้องมีตัวตน จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย
  2. ในโฆษณาจัดหางานของบริษัทนั้นต้องระบุชื่อบริษัทชัดเจน และต้องไม่ขอให้ผู้สมัครตอบกลับ blind e-mail address
  3. ต้องมีหน่วยงานด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล (Human Resources) ในบริษัท
  4. มีการกล่าวถึงสิทธิ สวัสดิการ และวันหยุดตามกฎหมายของพนักงานอย่างชัดเจน
  5. มีกระบวนการในการสมัครและสัมภาษณ์ที่ชัดเจน
  6. สามารถบอกได้ถึงความรับผิดชอบและความคาดหวังต่อตำแหน่งต่าง ๆ
  7. สามารถยกตัวอย่างเนื้องานของตำแหน่งต่าง ๆ ได้

โดยเว็บไซต์ Bankrate ของสหรัฐฯ ได้รวบรวม 20 อาชีพที่ดีที่สุดสำหรับการทำงานในรูปแบบ Work from Home โดยใช้ข้อมูลจากการสำรวจของ Bureau of Labor Statistics’ Occupation Outlook (BLS) ดังนี้

  1. ผู้พัฒนาเว็บไซต์ (Web Developer) อาชีพพัฒนาเว็บไซต์มีหน้าที่สร้างและออกแบบเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นการใช้สำหรับส่วนตัวหรือทางการค้า นอกจากนี้ผู้พัฒนาเว็บไซต์ยังสามารถใช้พื้นฐานความรู้ในการประกอบอาชีพด้านอื่น ๆ อีกด้วย เช่น ด้านการตีพิมพ์ ด้านการโฆษณา การให้คำปรึกษา เป็นต้น ซึ่งการเติบโตของธุรกิจ E-commerce และโทรศัพท์มือถือ ส่งผลให้อัตราการจ้างผู้พัฒนาเว็บไซต์มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นถึง 13% ภายใน 8 ปีข้างหน้า (ปี พ.ศ. 2571) ซึ่งสูงกว่าอาชีพอื่นๆ ถึง 5%
  2. ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ (Computer Support Specialist) ในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นบริษัท องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า หรือหน่วยงานใดๆ ก็จำเป็นที่จะต้องจ้างงานผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ โดยอัตราการจ้างงาน-v’อาชีพผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นถึง 10% ภายในปี พ.ศ. 2571
  3. ผู้ช่วยเสมือน (Virtual Assistance) อาชีพผู้ช่วยเสมือนมีหน้าที่เป็นผู้ช่วยลูกค้าในด้านการบริหารจัดการ ด้านเทคนิค หรือการสร้างสรรค์บริการต่างๆ อาทิ บริการด้านสุขภาพ กฎหมาย การเงิน เป็นต้น ซึ่งอาชีพผู้ช่วยเสมือนสามารถทำงานได้ในหลากหลายสาขาอาชีพทำให้มีรายได้จำนวนมาก
  4. ล่าม หรือผู้แปล (Interpreter/ Translator) หากคุณมีความสามารถด้านภาษา คุณสามารถเป็นล่ามหรือผู้แปลแบบ Work from Home ให้กับหลากหลายองค์กรได้ เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล ศาล หรือบริษัทต่าง ๆ โดยอาชีพล่ามเป็นอาชีพที่ต้องใช้ทักษะในการพูดหรือทักษะในการใช้ภาษามือ ส่วนอาชีพนักแปลจะต้องใช้ทักษะในการเขียนเป็นหลัก อาชีพล่ามและนักแปลเป็นอาชีพที่สามารถทำงานได้โดยไม่มีข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์ โดยอัตราการจ้างงานอาชีพนี้มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นถึง 19% ภายในปี พ.ศ. 2571
  5. ที่ปรึกษาด้านชีวิตคู่ (Marriage and Family Therapist) อาชีพที่ปรึกษาด้านชีวิตคู่มักจะต้องทำงานเต็มเวลาและมีคลินิคส่วนตัว ดังนั้นการติดต่อกับลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์จึงเป็นอีกวิธีหนึ่งในการทำงานในลักษณะที่ทั้งที่ปรึกษาและลูกค้าไม่จำเป็นต้องเดินทางมาที่คลินิค โดย Ms. Lisa Marie Bobby ที่ปรึกษาด้านชีวิตคู่และผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ GrowingSelf.com ซึ่งให้คำปรึกษาลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ตั้งแต่ปี 2010 พบว่าเป็นช่องทางที่ง่ายและมีประสิทธิภาพกว่าการให้ลูกค้าเข้ามาปรึกษาที่คลินิค
  6. ตัวแทนจองตั๋วและที่พัก (Travel Agent) ด้วยการเข้ามาของอินเตอร์เน็ต ผู้คนมักไม่โทรหาตัวแทนเพื่อจองตั๋วเครื่องบินและที่พักอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม หากคุณมีความเชี่ยวชาญในตลาดเฉพาะ เช่นจุดหมายปลายที่พิเศษ แปลกใหม่สำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง คุณสามารถที่จะสร้างรายได้ได้อย่างดีโดยการทำงานแบบ Work from Home ถึงแม้ BLS จะคาดการณ์ว่าในอีก 10 ปีข้างหน้าอัตราการจ้างงานของอาชีพตัวแทนจองตั๋วและที่พัก จะลดลง 6% อันเป็นผลมาจากอินเตอร์เน็ต ในความเป็นจริงด้วยแผนธุรกิจที่ดีอาชีพนี้มีโอกาสทำเงินได้สูงกว่าที่ผ่านมา
  7. ครู/ติวเตอร์ (Teacher/Tutor) เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าและอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงเปิดโอกาสให้นักเรียนและครูสามารถทำการเรียนการสอนระยะไกลได้มากขึ้น ความต้องการครูและติวเตอร์จึงเพิ่มขึ้นในทุกระดับชั้นการศึกษาทั้งระดับอุดมศึกษา และระดับก่อนอุดมศึกษา (K-12) ที่ป็นผลมาจากจำนวนรัฐในสหรัฐอเมริกาที่อนุญาตให้เรียนออนไลน์มีเพิ่มมากขึ้น นอกจากนั้นความต้องการครูสอนพูดภาษาอังกฤษก็เพิ่มสูงขึ้นมากในเอเชียโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีน
  8. เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise owner) การมีธุรกิจของตัวเองเป็นวิธีการสร้างงานที่ทำแบบ Work from Home ที่ดีอย่างหนึ่ง ข้อดีของแฟรนไชส์คือเมื่อลงทุนไปแล้วคุณจะได้ธุรกิจที่มีรากฐาน เป็นที่รู้จัก มีโมเดลธุรกิจ ขอบเขตในการทำธุรกิจหรือแม้แต่แหล่งเงินทุน แฟรสไชส์มีครอบคลุมหลากหลายธุรกิจเช่น เครื่องสำอาง ท่องเที่ยว การตลาด ค้าปลีก เป็นต้น
  9. ผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อโซเชียล (Social media specialist) สิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ต่อธุรกิจในปัจจุบันคือการที่ธุรกิจมีตัวตน เป็นที่รู้จักอยู่ในสื่อโซเชียล หากคุณเชี่ยวชาญในการใช้สื่อโซเชียลเช่น Facebook และ Instagram คุณสามารถทำเงินได้จากที่บ้านด้วยการช่วยให้ธุรกิจ ต่าง ๆ เข้าถึง โปรโมทสินค้าบนสื่อโซเชียล นอกจากนั้นคุณยังสามารถมีรายได้จากการสอนและการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการทำตลาดบนสื่อโซเชียลได้อีกด้วย
  10. ตัวแทนประกัน (Licensed insurance representative) คนจำนวนมากพบว่าการซื้อประกันทางช่องทางออนไลน์เป็นเรื่องที่ง่าย พวกเค้าต้องการเพียงแค่ตัวแทนประกันที่สามารถช่วยให้คำแนะนำในการเลือกประกันที่เหมาะกับความต้องการของเค้าเท่านั้น ในประเทศสหรัฐอเมริกา (ซึ่งตัวแทนประกันต้องได้รับใบอนุญาต) บริษัทประกันต่างก็กำลังลดพนักงานของตนเองที่คอยตอบคำถามของลูกค้าที่โทรเข้ามาสอบถามข้อมูล ดังนั้นมีโอกาสสูงทีเดียวที่ลูกค้าที่สนใจโทรเข้ามาจะได้คุยกับตัวแทนประกันซึ่งบริษัทจ้างแบบ Outsource ให้คอยตอบคำถามต่าง ๆ จากที่บ้าน
  11. นักเขียน/บรรณาธิการ (Writer/editor) ถึงแม้ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์รูปแบบเดิมกำลังซบเซาลง หากคุณมีคอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต ทักษะหรือประสบการณ์ด้านการเขียนและภาษา คุณก็มีโอกาสที่จะทำงานแบบ Work from Home ได้ อย่างไรก็ตามตลาดสำหรับบล็อกเกอร์ นักหนังสือพิมพ์ นักเขียน และบรรณาธิการที่ต้องสามารถวางแผนการทำงานและแก้ไขงานเขียนได้ทันกำหนดเป็นตลาดที่มีการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง
  12. คนเขียนใบสั่งยา (Medical transcriptionist) คนเขียนใบสั่งยาจะเขียนใบสั่งยาตามคำสั่งของหมอหรือเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่อัดใส่ไฟล์เสียงมา อาชีพนี้สามารถทำงานกับโรงพยาบาล คลีนิก บริษัทที่ให้บริการเขียนใบสั่งยาโดยเฉพาะ หรืออาจจะทำเป็นธุรกิจส่วนตัวก็ได้ การขยายตัวของธุรกิจสุขภาพทำให้คาดกันว่าอาชีพนี้จะเป็นที่ต้องการของตลาด แต่อาจจะได้รับผลกระทบบ้างจากการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้แทนคนรวมถึงการจ้างงานแบบ Outsource
  13. ผู้ให้บริการรับเลี้ยงเด็ก (Childcare provider) หากคุณมีลูกเล็ก การรับเลี้ยงเด็กที่บ้านของคุณเองสามารถให้ประโยชน์กับคุณได้ถึงสองต่อ ลูกคุณเองจะสนุกสนานอยู่กับเพื่อนเล่นวัยเดียวกันในขณะที่คุณสามารถสร้างรายได้ไปด้วยจากการที่รับดูแลเด็กคนอื่น ๆ ในสหรัฐอเมริกา เว็บไซต์เช่น Care.com Sittercity.com จะช่วยในการติดต่อกันระหว่างผู้ให้บริการดูแลเด็กกับพ่อแม่ที่กำลังหาคนเลี้ยงเด็ก
  14. กราฟฟิกดีไซเนอร์ (Graphic designer) หากคุณมีประสบการณ์ในการออกแบบโลโก้และลายเสื้อยืด หรือการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อทำโบรชัวร์หรือโฆษณา คุณสามารถสร้างเงินได้เป็นกอบเป็นกำจากการทำงาน Work from Home ในสหรัฐอเมริกา เว็บไซต์เช่น Fiverr.com และ 99designs.com จะช่วยให้คุณwfhพบกับผู้ว่าจ้างที่ต้องการใช้บริการของคุณ
  15. ตัวแทนบริการลูกค้า (Customer service representative) เมื่อคุณโทรศัพท์สั่งของจากแคตตาล็อก คนที่อยู่อีกฝั่งนึงของสายอาจจะเป็นคนที่นั่งทำงานแบบ Work from Home  อาชีพรับจัดกับการโทรเข้ามาร้องเรียนปัญหา การสั่งสินค้า และตอบคำถามของลูกค้าเป็นตลาดที่ใหญ่และกำลังโตมาก และเป็นที่ต้องการของเกือบทุกธุรกิจ
  16. ผู้ให้เช่าที่อยู่อาศัยระยะสั้น (Short-term rental host) ถ้าคุณมีห้องนอนว่าง ๆ อยู่ที่บ้าน คุณสามารถจะปล่อยเช่าได้ผ่านทางเว็บ Airbnb หรือ Homeaway จากการวิจัยของ Pew research Center พบว่าคนอเมริกันวัยผู้ใหญ่ 11% เคยใช้บริการออนไลน์ประเภทนี้
  17. ผู้ทดสอบเว็บไซต์ (Website tester) เว็บไซต์เช่น UserTesting.com และ Userlytics.com จ่ายเงินให้กับคนที่เข้ามาทดสอบเว็บไซต์และแอพลิเคชั่นบนมือถือแล้วให้ความเห็นเกี่ยวกับประสบการณ์การใช้งาน   UserTesting.com จ่ายให้ผู้ทดสอบคนละประมาณ 10 ดอลลาร์สหรัฐเพื่อแลกกับข้อมูลเชิงลึกจากผู้ใช้ที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมายของเว็บไซต์ โดยที่การทดสอบใช้เวลาประมาณไม่เกิน 20 นาที อย่างไรก็ดี โอกาสทำเงินจากงานลักษณะนี้ยังมีจำกัดจึงเหมาะที่จะเป็นงานเสริมมากกว่าที่จะเป็นงานหลักสำหรับเลี้ยงชีวิต
  18. พยาบาลวิชาชีพ (Registered nurse) การเติบโตของธุรกิจการให้หรือรับการดูแลสุขภาพทางไกลผ่านคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือเช่น การคัดกรองผู้ป่วยทางโทรศัพท์ ทำให้พยาบาลวิชาชีพที่ทำงานแบบ Work from Home เป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างสูง
  19. ผู้จัดงานประชุมและอีเวนท์ (Meeting, convention and event planner) ไม่ว่าจะเป็นงานประชุม งานระดมทุน หรืองานเลี้ยงวันเกิดซึ่งต้องการคนดูแลการจัดงาน ผู้จัดงานประชุมและอีเวนท์มีโอกาสอย่างมากมายที่จะทำงานแบบ Work from Home ผ่านทางโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ ด้วยอาชีพนี้คุณอาจต้องไปดูหน้างานด้วยตัวเอง โดยผู้ที่มีประสบการณ์หรือเรียนมาในด้านให้บริการ จัดเลี้ยง การรับรอง (Hospitaliity) จะมีความได้เปรียบในการทำงานสายนี้
  20. นักบัญชี ผู้ตรวจสอบบัญชี (Bookkeeping, accounting, auditing clerk) นักบัญชีและผู้ตรวจสอบบัญชีมีหน้าที่จัดทำและตรวจสอบบันทึกทางการเงินให้ถูกต้อง อาชีพนี้เหมาะกับการทำงานแบบ Work from Home โดยที่อาจต้องมีการไปทำงานที่ออฟฟิศของลูกค้าและทำงานล่วงเวลาบ้างในบางช่วง อย่างไรก็ตามคาดการณ์ว่าการจ้างงานในสายอาชีพนี้มีแนวโน้มที่จะลดลงภายในอีก 8 ปีข้างหน้า (ปี พ.ศ. 2571) เนื่องจากการนำเอาเทคโนโลยีและระบบอัตโนมัติเข้ามาใช้แทนคน


[https://www.bankrate.com/finance/personal-finance/10-best-and-real-work-at-home-jobs-1.aspx]

ดาวน์โหลดรายงาน
การสำรวจข้อมูลจาก Census Bureau’s American Community Survey ปี 2005-2018 พบว่าการทำงานผ่านเทคโนโลยี Telecommuting (การทำงานผ่านสื่อโทรคมนาคม) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ดาวน์โหลด