ข่าวสาร
“ศุภชัย เจียรวนนท์” ประธานสภาดิจิทัลฯ นำทีมประชุมคณะกรรมการสภาฯ ครั้งที่ 2/2565 เชื่อมั่น พ.ร.ฎ. ยกเว้นภาษี Capital Gains Tax 0% ดึงต่างชาติลงทุน หนุนเทคสตาร์ทอัพไทย เร่งสร้างระบบนิเวศทางเทคโนโลยี ขับเคลื่อนไทยเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมของโลก
4 พ.ค. 2565

26 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทยนำโดย นายศุภชัย เจียรวนนท์ประธานสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย และรองประธานตลอดจนคณะกรรมการร่วมประชุมคณะกรรมการสภาดิจิทัลฯ ครั้งที่ 2/2565 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมีวาระสำคัญประกอบด้วยเรื่องรับรองรายงานการประชุมคณะกรรมการสภาดิจิทัลฯ ชุดที่ 2 ครั้งที่ 1/2565  และการรายงานความคืบหน้ายุทธศาสตร์และโครงการสภาดิจิทัลฯ รวมถึงนโยบายการออกพระราชกฤษฎีกายกเว้นภาษี Capital Gains Tax 0% สำหรับการลงทุนในสตาร์ทอัพไทย เพื่อขับเคลื่อนแนวทางการดำเนินงานสภาดิจิทัลฯ ในการมุ่งพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยอย่างยั่งยืน


นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าในเศรษฐกิจยุคโควิดและสถานการณ์เงินเฟ้อขั้นรุนแรง (Hyperinflation) รวมถึงการกีดกันทางการค้าและภาวะสงครามส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจทั่วทั้งโลกอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะถดถอยถึง 1-2 % ในปีนี้ อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวของระบบเศรษฐกิจทั่วโลกที่ถดถอยและอยู่ในสภาวะวิกฤตในหลายมิติ ทำให้ประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยจึงต้องมีการปรับนโยบายทางการเงินที่สะท้อนความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกที่สูงขึ้น


นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย กล่าวเสริมต่อประเด็นการส่งเสริม Tech Startup ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยสภาดิจิทัลฯ ได้ร่วมมือผลักดันการออกพระราชกฤษฎีกายกเว้นภาษี Capital Gains Tax 0% สำหรับการลงทุนในสตาร์ทอัพไทยเพื่อดึงดูดนักลงทุนไทยและต่างประเทศ (Venture Capital หรือ VC) รวมถึงการขับเคลื่อนแรงจูงใจ (Incentive) ด้านอื่น เช่น ภาษีเงินได้ (Income Tax) และภาษีนิติบุคคล (Corporate Tax) เพื่อให้สตาร์ทอัพที่ตั้งหรือจดทะเบียนในประเทศไทยได้รับสิทธิประโยชน์และยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันกับประเทศสิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย และเวียดนามได้อีกด้วย


สภาดิจิทัลฯ ภายใต้การขับเคลื่อน Tech Startup ให้เกิดขึ้นในประเทศไทยเพื่อมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรม โดยตั้งเป้าหมายว่าจะสร้างสตาร์ทอัพไทยรายใหม่จำนวน 1 หมื่นรายภายในระยะเวลา 2-3 ปี และก่อให้เกิดการจ้างงานบุคลากรถึง 5 แสนคน ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการส่งเสริมระบบนิเวศที่ทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสำหรับ Tech Startup ในระดับภูมิภาคและระดับโลก ตลอดจนทรานส์ฟอร์มระบบอุตสาหกรรมให้เข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลที่ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยี 5.0 นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทยกล่าว