วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย (DCT) โดย ม.ร.ว.นงคราญ ชมพูนุท ประธานสภาดิจิทัลฯ พร้อมด้วยที่ปรึกษาทรงคุณวุฒิ ที่ปรึกษากิติมศักดิ์ รองประธาน และคณะกรรมการสภาดิจิทัลฯ จัดพิธีไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เนื่องในโอกาสย้ายสำนักงานใหม่ ณ บริเวณด้านหน้า ทรู ดิจิทัล พาร์ค 

ภายหลังเสร็จสิ้นพิธี สภาดิจิทัลฯ ได้จัดการ ประชุมคณะกรรมการสภาดิจิทัลฯ ครั้งที่ 1/2568 โดยมีวาระสำคัญ เช่น การรับรองรายงานการประชุม และการรายงานความคืบหน้ายุทธศาสตร์ต่าง ๆ เป็นต้น

ม.ร.ว.นงคราญ ชมพูนุท ประธานสภาดิจิทัลฯ กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการสำคัญที่สภาดิจิทัลฯ ได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เช่น โครงการอบรม Digital Citizen Plus, งาน Crosstech Online Matching Malaysia - Thailand 2024 และการร่วมจัดกิจกรรมวันส่งเสริมอินเทอร์เน็ตปลอดภัยแห่งชาติ 2568 นอกจากนี้ ยังได้เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในปีนี้ รวมถึงการขยายความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายการเป็นผู้นำด้านดิจิทัลของไทยในภูมิภาคต่อไป

ศาสตราจารย์วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ ที่ปรึกษาทรงคุณวุฒิ สภาดิจิทัลฯ ให้ความสำคัญกับการยกระดับการศึกษาและอาชีวศึกษาของประเทศไทย โดยเฉพาะการให้ทุนอาจารย์ไปศึกษาต่อต่างประเทศในสาขาที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อพัฒนาบุคลากรให้พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต

ดร.เพิ่มศักดิ์ มกราภิรมย์ ที่ปรึกษาทรงคุณวุฒิ สภาดิจิทัลฯ เสนอแนะให้สภาดิจิทัลฯ มุ่งเน้นการยกระดับความร่วมมือในเชิงนโยบาย พร้อมทั้งเสนอให้มีการศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิทัล และการสื่อสารสังคมเพื่อสร้างความตระหนักเกี่ยวกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ นอกจากนั้น ดร.เพิ่มศักดิ์ ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาผู้ประกอบการควบคู่ไปกับการสนับสนุนด้านเงินทุน และการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโตของธุรกิจสตาร์ตอัป เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยมีศักยภาพในการแข่งขันในเวทีโลก

ในขณะที่ นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในฐานะที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของสภาดิจิทัลฯ ได้กล่าวเสริมถึงความท้าทายของประเทศไทยในการแข่งขันระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบต่อ SME ซึ่งเป็นกลุ่มสำคัญของภาคอุตสาหกรรมไทย

นายเกรียงไกร เสนอแนวทางในการทรานสฟอร์ม SME ให้เป็น Smart SME ผ่าน 4 Go ได้แก่ Digital Transformation, Innovation, Green Economy และ Global Supply Chain พร้อมมุ่งผลักดันโครงการส่งเสริมสมาชิกและผู้ประกอบการ (Digital One - Starter Package) เพื่อให้ SME เข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาบุคลากรด้านดิจิทัล การปฏิรูปกฎหมายที่ล้าสมัยเพื่อส่งเสริม Ease of Doing Business และพร้อมร่วมมือกับสภาดิจิทัลและทุกภาคส่วนในการผลักดันประเทศไทยให้ก้าวสู่ผู้นำในภูมิภาคอาเซียน

ผ.ศ. นพ.ฉัตรชัย มิ่งมาลัยรักษ์ ที่ปรึกษาทรงคุณวุฒิ สภาดิจิทัลฯ ยังได้กล่าวถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันระหว่างทุกภาคส่วนในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในด้านการแพทย์อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นประเด็นที่สำคัญและมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับชีวิตของผู้คน

ด้าน พล.อ.อ. นพ.อิทธพร คณะเจริญ ที่ปรึกษาทรงคุณวุฒิ สภาดิจิทัลฯ ได้แสดงความเห็นในประเด็นการพัฒนากำลังคนให้ตรงกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม โดยเสนอให้มีการวางแผนระดับประเทศในการผลิตบุคลากร นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงความสำคัญของ Health Care Center ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีดิจิทัลและ AI เข้ามามีบทบาทในการแพทย์มากขึ้น โดยจะผลักดันความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพัฒนา Health Care Center และนำเทคโนโลยีมาใช้ในการรักษาทางการแพทย์อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการสภาดิจิทัลฯ ได้ร่วมกันเสนอแนะเพื่อกำหนดแผนยุทธศาสตร์การดำเนินงานเพื่อผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นผู้นำด้านดิจิทัลในภูมิภาค โดยเน้นย้ำถึงความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคการศึกษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายในการพัฒนาผู้ประกอบการไทย ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพ เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยในเวทีโลกอย่างยั่งยืนต่อไป